มะเร็งหลังโพรงจมูก

ข้อเท็จจริง

  • มะเร็งหลังโพรงจมูก เป็นมะเร็งที่เกิดจากเซลล์ผิดปกติบริเวณพื้นที่หลังโพรงจมูกโดยสามารถแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำคอ โพรงจมูก ช่องคอ ส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการในระยะแรกหรือมีเพียงอาการคล้ายหวัดเรื้อรัง  แต่เมื่อลุกลามมากขึ้น อาจมาด้วยอาการหูอื้อข้างเดียว คัดจมูก มีน้ำมูกปนเลือด เลือดกำเดาไหล ต่อมน้ำเหลืองโตที่บริเวณลำคอ หรือหากการลุกลามไปถึงเส้นประสาทสมองอาจทำให้มองเห็นภาพซ้อนและชาบริเวณใบหน้าได้
  • มะเร็งหลังโพรงจมูก เป็นมะเร็งบริเวณศีรษะและลำคอที่สามารถพบได้บ่อยในประชากรเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศจีนตอนใต้ 

ปัจจัยเสี่ยง

  • ไวรัสที่เป็นต้นเหตุสำคัญของมะเร็งหลังโพรงจมูกคือ ไวรัส EBV (Epstein – Barr) หรือ Human Herpesvirus 4 (HHV4) ซึ่งในผู้ป่วยมะเร็งหลังโพรงจมูกจะมีสารภูมิคุ้มกันต่อไวรัสนี้มากกว่าคนทั่วไป
  • การรับประทานเนื้อสัตว์แปรรูปที่มีสารไนโตรซามีน เมื่อเกิดการสูดดมจะส่งผลให้ DNA ของเซลล์เยื่อบุผิวเปลี่ยนแปลงจนเกิดการกลายพันธุ์ได้
  • การสัมผัสสารต่าง ๆ ทั้งฝุ่นจากไม้ หนัง สิ่งทอ สารประกอบนิกเกิลฟอร์มาลดีไฮด์ โครเมียม ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ มีส่วนทำให้เกิดมะเร็งหลังโพรงจมูกได้

อาการ

  • อาการทางจมูก อาทิ คัดแน่นจมูก เลือดกำเดาไหล น้ำมูกไหล มีเสมหะหรือน้ำมูกปนเลือด เสียการได้กลิ่น
  • อาการทางระบบประสาท อาทิ ปวดศีรษะ เห็นภาพซ้อน ชา เจ็บเสียวที่แก้ม ปวดเหนือดวงตาหรือใต้ดวงตา ตาแฉะ ปวดบวมที่ใบหน้า กล้ามเนื้อหน้าเป็นอัมพาต เสียงแหบ กลืนลำบาก สำลัก รับรสและกลิ่นผิดเพี้ยน
  • อาการทางหู อาทิ หูอื้อ ปวดหู ได้ยินบกพร่อง มีของเหลวไหลออกจากหู เสียการได้ยิน
  • อาการอื่น ๆ อาทิ ต่อมน้ำเหลืองที่คอบวม น้ำหนักลด ไข้ต่ำ เบื่ออาหาร ฯลฯ

การตรวจวินิจฉัย

  • ซักประวัติและตรวจร่างกายผู้ป่วยอย่างละเอียดโดยแพทย์เฉพาะทาง
  • ตรวจช่องจมูกและลำคอด้วยกล้อง (Nasal Endoscope) และการตัดชิ้นเนื้อตรวจทางพยาธิวิทยา
  • เจาะชิ้นเนื้อพิสูจน์หาเซลล์มะเร็งด้วยเข็ม (Fine Needle Aspiration) ในกรณีที่มีต่อมน้ำเหลืองโต
  • ตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (Computed Tomography)
  • ตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)
  • ตรวจด้วยเครื่องเพทซีที สแกน (PET/CT Scan)

การบำบัดรักษา

การรักษามะเร็งโพรงจมูกส่วนใหญ่เน้นการฉายรังสีร่วมกับการให้ยาเคมีบำบัดเป็นหลัก วิธีการรักษา ได้แก่

  • การฉายรังสี (Radiation Therapy) ใช้รังสีพลังงานสูงเข้าไปทำลายเซลล์มะเร็งหรือลดขนาดเนื้องอกก่อนผ่าตัด
  • เคมีบำบัด (Chemotherapy) ช่วยชะลอการเติบโตของเนื้องอก ลดความเสี่ยงกลับมาเป็นซ้ำ
  • การผ่าตัด (Surgery) มีทั้งการผ่าตัดแบบเปิดและการผ่าตัดผ่านกล้อง โดยจะมีความจำเป็นในกรณีการผ่าตัดมะเร็งที่ยังหลงเหลือภายหลังการรักษาด้วยการฉายรังสีร่วมกับการให้ยาเคมีบำบัด

มะเร็งหลังโพรงจมูกมีการตอบสนองต่อการรักษาได้ดีและมีโอกาสหายได้หากได้รับการวินิจฉัยและรับการรักษาในระยะเริ่มต้นดังนั้นการตรวจวินิจฉัยได้อย่างทันท่วงทีจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการรักษามะเร็งหลังโพรงจมูก

ผู้เขียน

นพ.รุตติ ชุมทอง ศัลยแพทย์ด้านศีรษะและลำคอ โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ